วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

การใช้ is am are was were

  is, am, are แปลว่า เป็น อยู่ คือ เราใช้กริยานี้เพื่อแสดงสภาพสภาวะในปัจจุบัน เมื่อเราพูดถึงสภาพสภาวะที่กำลังเป็นอยู่ การใช้ is, am, are ต้องสังเกตประธาน ควรดูประธานว่าเป็นรูปสรรพนาม หรือคำนาม ถ้าประธานเป็นคำสรรพนาม จะมีการใช้ดังนี้
        I    ใช้กับ am
        He ใช้กับ is
        She ใช้กับ is
        It ใช้กับ is
ประธานเอกพจน์บุรุษที่ 3 ใช้กับ is
        You ใช้กับ are
        We ใช้กับ are
        They ใช้กับ are
ประธานพหูพจน์บุรุษที่ 3 ใช้กับ is
ประธาน
Subject
กริยา to be หรือ
Verb to be
ส่วนเติมเต็ม
Complement
  I
am
a  student
You/ We/ They
The students
The books
are
in  the  room.
He/ She/ It
The student
The book
is
on  the  table.


V. to be  + V3 ก็ Pasiive voiceค่ะ

active voice คือ ประโยคที่เราพูดกันธรรมดาๆ ประธาน + กริยา + กรรม
passive voice คือ ประโยคที่เอากรรมมาเป็นประธานของประโยค เพื่อเน้นว่ากรรมนั้นถูกกระทำโดยใคร

เช่น active >>  He kicks the dog. (เขาเตะหมา)
      passive (เอากรรมขึ้นก่อน)>> The dos is kicked by him. (หมาถูกเตะโดยเขา)  * ใช้ is  เพราะหมามีตัวเดียว

     active >>  He steal the rings. (เขาขโมยแหวนหลายวง)
     passive (เอากรรมขึ้นก่อน)>>  The rings are stolen by him (แหวนหลายวงถูกขโมยโดยเขา) * ใช้ are เพราะแหวนมีหลายวง

     active >>  He ate an apple (เขากินแอปเปิ้ล แต่ผ่านมาแล้ว >> กินในอดีต)
     passive (เอากรรมขึ้นก่อน)>> An apple was eaten by him  (แอปเปิ้ลถูกกินโดยเขา) * ใช้ was เพราะแอปเปิ้ล1ลูกเป็นเอกพจน์ และเป็นอดีตด้วย เลยใช้ was

    active >>  He  wrote the books (เขาเขียนหนังสือหลายเล่มในอดีต)
    passive (เอากรรมขึ้นก่อน)>>  The book were writen by him (หนังสือหลายเล่มถูกเขียนโดยเขาในอดีต) * ใช้ were เพราะหนังสือมีหลายเล่ม เป็นพหูพจน์ ใช้ were